Rock Guitar : Guitar Hero 3 Paul Gilbert หนึ่งในกีต้าร์ฮีโร่ที่ดีที่สุด

Guitar Hero 3 Paul Gilbert หนึ่งในกีต้าร์ฮีโร่ที่ดีที่สุด

 



            Paul Gilbert ถือเป็นกีต้าร์ฮีโร่ (Guitar Hero) ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ฝึกเล่นกีต้าร์ (และพวกมืออาชีพหลายๆคน) ด้วยความสามารถในการเล่นกีต้าร์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Rock Guitar หรือ Heavy Metal ด้วยรูปแบบสไตล์การเล่นกีต้าร์ที่ ความเร็ว ดุดัน และมีเมโลดี้ที่สวยงาม แน่นอนว่าคอเพลง Heavy Metal และชาว Rock Guitar จะต้องคุ้นเคยกับ Paul Gilbert เป็นอย่างดี!!
 
            Paul Gilbert โด่งดังฐานะมือกีต้าร์มือกีต้าร์ของวง Racer X และ Mr. Big หลังจากนั้น Paul Gilbert ได้แยกตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยวเพราะต้องการทำดนตรีในแบบฉบับของ (ก็เลยแต่งเองร้องเองแม่งเลย) ซึ่งเป็นแนวที่ซอล์ฟลงมา (ตอนอยู่กับ Racer X จะเป็นแนว Hard Rock) นอกจากนั้น Paul Gilbert ยังมีงานเพลงร่วมกับศิลปินอื่นๆอีกมากมาย

            มาดูประวัติของของพี่แก Paul Gilbert ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 6 พฤษจิกายน 1966 ในอิลลินอยด์ สหรัฐอเมริกา ชื่อจริง Paul Brandon Gilbert เขาได้หัดเล่นกีต้าร์ตอนอายุ 5 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก The Beatle, The Jackson, David Bowie, Led Zeppelin โดยคนที่ทำให้ Paul Gilbert สนใจกีต้าร์อย่างจริงจังนั้นก็คือ Jimi Hendrix เมื่อหลังจากที่เขาได้ฟังการเล่นกีต้าร์ของ Eddie Van Halen ซึ่งคนนี้เองที่ทำให้ Paul Gilbert รู้สึกว่าตัวเองต้องฝึกหนัก พี่แกก็เลยนั่งปั่นตั้งแต่เช้ายันเย็น (ประมาณว่าเหมือนโฆษณานมที่มีกาบ้า 12 พอล!! วิ่งดิ พอล!!)
 
           ต่อมาในปี 1981 Paul Gilbert ได้ติดต่อกับ Mike Varney เป็นครั้งแรก (Mike Varney เป็นผู้ก่อตั้ง Shrapnel Records) Paul Gilbert ได้ถามถึงการร่วมงานกับ Ozzy Osbourne ซึ่ง Mike Varney มันก็แอบคิดในใจว่า Ozzy Osbourne มาสนใจอะไรกับเด็กน้อยอายุ 15 ปี แต่หลังจากที่ Ozzy Osbourne ได้ฟังเดโม่ของพี่ Paul เล่นกีต้าร์เท่านั้นแหละพี่น้อง ถึงกับอ้าปากค้าง 2 นาที (อันนี้ผมจินตนาการเอาเองนะ 555) และทำให้งานของ Paul Gilbert ได้ถูกถ่ายทอดลงนิตยสาร Guitar Player ในขณะที่เขาอายุเพียง 15 ปี และเขาทำงานให้กับนิตยสารนี้ 3 ปี

             ต่อมา Paul Gilbert ได้ย้ายมาเรียนดนตรีที่ LA (ที่สถาบัน Guitar Institute of Technology) เขาเรียนจบในระยะเวลาแค่ปีเดียว (โอ้! เทพ) ที่มหาลัยก็ขอร้องให้ Paul Gilbert เป็นอาจารย์สอนกีต้าร์ที่นั่น ในตอนนี้เองพี่แกก็ได้ฟอร์มวง Racer X ขึ้นมา!! สมาชิกรุ่นดั้งเดิมก็มี Paul Gilbert (กีต้าร์), Juan Alderete (เบส), Harry Gschoesser (กลอง) and Jeff Martin (ร้องนำ)

             Racer X ได้นำเสนอดนตรีแนว Heavy Metal ซึ่งรับอิทธิพลมาจาก Judas Priest และด้วยเทคนิคการปั่นกีต้าร์ระดับเทพของ Paul Gilbert ทำให้คนต้องนำไปเปรียบเปรยกับ Yngwie Malmsteen ซึ่ง Paul Gilbert ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกีต้าร์ฮีโร่ (Guitar Hero) ที่เป็นกีต้าร์ได้เร็วที่สุดในโลก เช่น "Technical Difficulties", "Frenzy", "Scarified", "Y.R.O." และ "Scit Scat Wah" ไปหาฟังดูนะ

             Paul Gilbert ได้ออกจาก Racer X ปี 1988 หลังจากนั้นเขาได้ร่วมงานกับ Billy Sheehan และก่อตั้งวง Mr. Big กับ Pat Torpey (มือกลอง) และ Eric Martin (นักร้อง) ตอนเริ่มต้นนั้นประสบความสำเร็อย่างมากในญี่ปุ่น (ไปดังในญี่ปุ่นได้ไงนิ) และเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกในปี 1991 และสมัยนั้นเพลงดังที่เป็นดันดับ 1 ทั่วโลกของพวกเขาก็คือ To be with you เขาและวงประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากอยู่กับ Mr. Big มา 8 ปี Paul Gilbert ก็ได้ออกมาจากวง

            ในปี 1997 Paul Gilbert ได้ออกจากวง Mr. Big มาเป็นเป็นศิลปินเดี่ยวทำดนตรีในแบบฉบับของเขา และเริ่มต้นอาชีพการโซโล่ (กีต้าร์ฮีโร่) และทำอัลบั้มแนวเพลงป็อปร็อคซึ่งได้แต่งเองร้องเอง และมีผลงานที่ featuring กับศิลปินอื่นๆอีกมากมาย

            ส่วนกีต้าร์ของ Paul Gilbert ตัวหลักนั้นจะเป็น Ibanez PGM ซึ่งจะมี “F hole” เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งกีต้าร์หลายๆตัวของพี่แกนั้นจะถูกปรับแต่งให้ได้เหมาะสม ในช่วงปียุค 90s พี่แกก็หันมาใช้ Ibanez PGM301ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของพี่แกนั่นแหละ และเมื่อเร็วๆนี้ เขาก็ได้มาใช้ Ibanez "Fireman" (Ibanez PGMFRM1) ซึ่งเป็นรุ่นซิกเนเจอร์ของ Paul Gilbert เช่นกัน

สำหรับประวัติของ Paul Gilbert ก็จบไว้เพียงเท่านี้ละกันครับ ถ้ามีข้อมูลคลาดเคลื่นตรงไหน ก็ต้องขอโทษด้วยครับ ผมพยายามแล้วแต่เกิดไม่ทันยุคพี่แกจริงๆ สวัสดีครับ

ป.ล. เพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ถ้าอยากแก้ไขหรือเพิ่มเติมตรงไหน ขอให้ชาว Rock Guitar คอมเม้นต์ไว้เลยนะ ขอบคุณครับ

            ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปของพี่ Pual Gilbert เท่ทุกท่าจริงๆ สวัสดีครับ


 

Rock Guitar : Guitar Hero 2 Yngwie Malmsteen "ผู้ให้กำเนิด Neoclassic"

            Yngwie Malmsteen กีต้าร์ฮีโร่ "ผู้ให้กำเนิด Neoclassic"

 

            Yngwie J Malmsteen เกิดในสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อ 30 มิถุนายน 1963 ชื่อเต็ม Yngwie Johann Malmsteen เป็นกีต้าร์ฮีโร่ชาวสวีเดน นักแต่งเพลง Yngwie Malmsteen มีความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีที่หลากหลาย และเป็นหัวหน้าวงของเขาเอง
             
            Yngwie Malmsteen เป็นที่รู้จักในฐานะกีต้าร์ฮีโร่ที่บรรเลงเมโลดี้สไตล์ Neoclassic ในดนตรี Heavy Metal ซึ่ง Steve Huey ได้กล่าวไว้ว่า “Yngwie Malmsteen เป็นกีต้าร์ฮีโร่ (Guitar Hero) คนหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคนิคที่สุดยอดในยุค 80s อย่างไม่ต้องสงสัย”
             
            ชีวิตในวัยเด็ก Yngwie Malmsteen เป็นลูกคนที่ 3 ในครอบครัวที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี เมื่ออายุ 7 ปี Yngwie Malmsteen ได้ดู Jimi Hendrix จาก TV Special ตอนนั้นเองพี่แกก็เห็นเฮีย Jimi Hendrix ทุบและเผากีต้าร์ของตัวเองซึ่ง Yngwie Malmsteen ถึงกับพูดออกมาว่า "this is really cool" (บ้านเราคงจะประมาณว่า แม่งโคตรเจ๋งอ่ะ) ซึ่งทำให้ Jimi Hendrix เป็นกีต้าร์ฮีโร่ (Guitar Hero) ของเขาตลอดมา และในวันที่ Yngwie Malmsteen เริ่มเล่นกีต้าร์ ก็เป็นวันเดียวกันกับวันที่ Jimi Hendrix ได้อำลาโลกนี้ไป
            
            Yngwie Malmsteen ได้ฝึกเล่นกีต้าร์จากการแกะเพลง ซึ่งพี่แกไม่ยอมให้ตัวโน๊ตที่แกะหลุดแม้แต่โน๊ตเดียว และได้ก่อตั้งวงครั้งแรกเมื่ออายุ 10 ปี ชื่อวง “Track On Earth” สมาชิกวงก็คือตัวเค้าเองและเพื่อนๆจากโรงเรียนสอนตีกลอง เมื่อ Yngwie Malmsteen เป็นวัยรุ่นเขาได้พบกับ Niccolò Paganini (นักประพันธ์เพลงและนักไวโอลิน) ซึ่ง Yngwie Malmsteen กล่าวว่าเป็นนักดนตรีคลาสสิคที่มีอิทธิพลต่อเขา เช่นเดียวกับ Ritchie Blackmore, Uli Jon Roth และBrian May ของวง Queen ซึ่งทำให้ Yngwie Malmsteen ได้นำมาผสมกับแนวร็อคถือเป็นจุดกำเนิดของ Neoclassic !!
             
            ในช่วงต้นปี 1982 Mike Varney แห่ง Shrapnel Records ก็ได้มีโอกาสฟังการเดโม่การเล่นกีต้าร์ของ Yngwie Malmsteen ทำให้ Mike Varney ประทับใจเป็นอย่างมาก (หลังจากก่อนหน้านี้ (ปี 1981) Mike Varney เคยอ้าปากค้างมาแล้ว เมื่อฟังเดโม่ของ Paul Gilbert ในวัย 15 ปี) หลังจากนั้น Mike Varney จึงติดต่อให้ Yngwie Malmsteen มาที่อเมริกาและร่วมงานกับ Steeler หลังจากนั้นร่วมงานกับวง Alcatrazz และเปิดตัวในปี 1983
            
            ในปี 1983 Yngwie Malmsteen ได้ออกอัลบั้มร่วมกับวง Alcatrazz ชื่ออัลบั้ม No parole on Rock n’ Roll หลังจากนั้นเข้าได้ออกอัลบั้มโซโล่ Rising Force และ Yngwie Malmsteen ได้ออกจาก Alcatrazz หลังจาก Rising Force วางขายได้ไม่นาน ซึ่งต่อมา อัลบั้ม Rising Force นี้เองได้รับรางวัลชนะเลิศ จาก Guitar Player Magazine's award ในสาขา Best Rock Album (ช่วงนี้พี่แกน่าจะยังเป็นแนว Rock Guitar อยู่มั้ง เลยได้รางวัลนี้) และ Yngwie Malmsteen ก็ยังคงออกอัลบั้มต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
             
            กลางยุค 80s แนวเพลง Neoclassic ของเขามีชื่อเสียงอย่างมากและเป็นที่นิยมของเหล่ากีต้าร์ฮีโร่ในยุคนั้น เช่น Jason Becker, Marty Friedman, Paul Gilbert และ Vinnie Moore ในปี 1988 ทาง fender  ได้ผลิตกีต้าร์รุ่น Stratocaster ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Yngwie Malmsteen วางจำหน่าย (คนแรกที่เป็นที่ได้รับเกียรติเป็นซิกเนเจอร์ของ Fender ก็คือ Eric Clapton)
             
            หลังจากนั้น Yngwie Malmsteen ได้มีผลงานออกมามากมาย ซึ่งอัลบั้มล่าสุดออกเมื่อปี 2010  คือ Relentless ส่วนกีต้าร์ที่ถือเป็นคู่หูของของพี่แกก็คือ Fender Stratocaster โดยคอเป็นแบบ Scalloped (คอขุด) และหัวของกีต้าร์ (Headstock) ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยเพิ่ม Sustained  (ให้เสียงค้างยาวขึ้น)  สำหรับผลงานการโซโล่กีต้าร์ของ Yngwie Malmsteen อาจจะไม่ครบนะครับ แต่พยายามหามาแล้วนะ :p

1984 Rising Force, 1985 Marching Out, 1986 Trilogy, 1988 Odyssey, 1990 Eclipse, 1992  Fire and Ice, 1994 The Seventh Sign, 1995 Magnum Opus,1996 Inspiration, 1997 Facing the Animal, 1999 Alchemy, 2000 War to End All Wars, 2002 The Genesis, 2005 Unleash the Fury, 2008 Perpetual Flame, 2010 Relentless

สำหรับประวัติ Yngwie J Malmsteen ก็ขอกล่าวไว้เพียงเท่านี้ เดี๋ยวฟิตๆเมื่อไหร่จะมาลงรายละเอียดให้มากกว่านี้ครับ สวัสดีครับ
ป.ล. ถ้าข้อมูลคลาดเคลื่อนก็ขอโทษทีนะจ้ะ พอดีพยายามแล้วแต่เกิดไม่ทันยุคพี่เขาจริงๆ ;p
           
           
           
 

Rock Guitar : Guitar Hero 1 ประวัติ Steve Vai กีต้าร์ฮีโร่ "พ่อมดกีต้าร์"

Steve Vai กีต้าร์ฮีโร่ ฉายา "พ่อมดกีต้าร์"

Guitar Hero 1: Steve Vai
     ก่อนอื่นก็มารู้จักกับประวัติของน้าแกก่อนนะ ชื่อจริง Steven Siro Vai เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1960 จากตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 52 ปีแล้ว Steve Vai เป็นกีต้าร์ฮีโร่ชาวอเมริกัน และยังเป็นนักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ที่มียอดขายกว่า 15 ล้านอัลบั้ม
     ก่อนจะเริ่มอาชีพ Steve Vai ทำงานเป็น music transcriptionist ให้กับ Frank Zappa และร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับ Frank Zappa เป็นเวลา 2 ปี คือ 1980 ถึง 1982 หลังจากนั้นในปี 1983 Steve Vai ได้เริ่มต้นอาชีพการโซโล่เดี่ยว จนถึงตอนนี้ Steve Vai มีผลงานการโซโล่เดี่ยวทั้งหมด 10 อัลบั้ม และ Steve Vai ได้บันทึกเสียงและออกทัวร์กับ Public Image Ltd., Alcatrazz, David Lee Roth และ Whitesnake อีกด้วย
     Steve Vai เข้าร่วมเป็นสมาชิกหลักของ G3 คอนเสิร์ตทัวร์ ซึ่งเริ่มต้นในปี 1996 ต่อมาในปี 1999 น้าแกได้ก่อตั้งค่ายเพลงอิสระ Favored Nations ซึ่ง Steve Vai ได้กล่าวจุดมุ่งหมายไว้คือ "...artists that have attained the highest performance level on their chosen instruments" ภาษาบ้านเราคงจะประมาณว่า "เพื่อให้ศิลปินบรรลุผลสูงสุดในเครื่องดนตรีที่เขาเล่น" (ถ้าแปลผิดขออภัยนะจ้ะ ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง)

     ผลงานอัลบั้มโซโล่เดี่ยวของ Steve Vai 
     1984      Flex-Able
     1984      Flex-Able Leftovers
     1990      Passion and Warfare
     1993      Sex & Religion
     1995      Alien Love Secrets
     1996      Fire Garden
     1998      Flex-Able Leftovers (Re-release)
     1999      The Ultra Zone
     2005      Real Illusions: Reflections
     2012      The Story of Light
     
     ก่อนเข้าวงการ Steve Vai เริ่มเล่นกีต้าร์ปี 1973 (อายุ 13 ปี) น้าแกได้เอาบทเรียนของ Joe Satriani มาฝึก และได้ก่อตั้งวงดนตรีแถวๆบ้าน มีบางคนเรียกชื่อวงว่า "The Steve Vais" (เอาชื่อตัวเองเป็นชื่อวง อิอิ) Steve Vai รับอิทธิการเล่นกีต้าร์มาจากกีต้าร์ฮีโร่หลายคนคือ Jimi Hendrix, Jeff Beck, Brian May, Jimmy Page, Glen Buxton และมือกีต้าร์แจ๊สฟิวชั่น Allan Holdsworth 
     Steve Vai ได้เข้าเรียยนที่ Berklee College of Music ภายหลัง Steve Vai บันทึกเสียงไว้สำหรับออดิชั่นกับ Frank Zappa
     Steve Vai ได้ส่งโน๊ตเพลง "The Black Page" ถึง Frank Zappa และได้แนบเทปการเล่นกีต้าร์ของ Steve Vai เองไปด้วย เมื่อ Frank Zappa ได้ฟังก็เกิดความประทับใจถึงกับจ้างให้ Steve Vai เป็นคนเขียนโน๊ตกีต้าร์โซโล่ในปี 1979 ซึ่งอยู่บางส่วนของอัลบั้ม Joe's Garage และ the Shut Up 'n' Play Yer Guitar หลังจากนั้น Steve Vai ได้ร่วมงานในฐานะมือกีต้าร์และร้วมออกทัวร์ในปี 1980 และในปี 1983 Steve Vai ก็ได้เริ่มออกอัลบั้มเรื่อยมา 
     กีต้าร์ที่เป็นคู่ขาของ Steve Vai ที่น้าแกพาออกงานบ่อยๆ ก็คือ Ibanez Jem ซึ่งแต่ละตัวจะมีชื่อเรียก (Steve Vai ตั้งเอง) เช่น EVO, FLO ซึ่งเจ้าตัว EVO ได้เริ่มใช้ก่อนจะมีการบันทึกเสียงอัลบั้ม Sex and Religion และกลายมาเป็นคู่หูใน Steve Vai ในที่สุด
     ส่วนหนึ่งของเพลงที่โด่งดังของ Steve Vai เพื่อนๆลองไปหาฟังดูใน youtube ดูนะ
     For the love of god, Tender surrender, Whispering a players, Lotus feet และอื่นๆ อีกมากมาย

ขอบคุณข้อมูลจากวิกิครับ (แปลเหนื่อยมาก 5555)
สำหรับบทความนี้ผมขอจบไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


 

Guitar Rock: Guitar Lesson

Guitar Lesson
เนื้อบทความนี้จะเป็นความรู้และเทคนิคการเล่นกีต้าร์ต่างๆ ตั้งแต่ระดับเบสิคไปจนถึงระดับมืออาชีพเลย เพื่อนที่หัดเล่นกีต้าร์ หรือคนที่เล่นเป็นแล้ว หรือเทพแล้วก็มาอ่านเป็นความรู้เสริมนะครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์นะ
 

Guitar Rock: Guitar Review

Guitar Review
ในบทความนี้ (Guitar Rock: Guitar Review) ก็จะเป็นข้อมูลกีต้าร์รุ่นต่างๆ ที่เหล่าบรรดากีต้าร์ฮีโร่ใช้กันซึ่งก็มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ มีจุดเด่นอย่างไรบ้าง ผมจะทยอยหาข้อมูลมาฝากชาวร็อคนะครับ
 

Rock Guitar: Guitar Heroes

Guitar Heroes
Rock Guitar: Guitar Heroes
Just wanna be Rock!! รวมรวมประวัติของเหล่าบรรดา กีต้าร์ฮีโร่ (Guitar Hero) เชื่อว่า Rock Guitar ทุกคนคงจะคุ้นหน้าพวกเขาเป็นอย่างดี
Guitar Hero 1 Steve Vai กีต้าร์ฮีโร่ ฉายา "พ่อมดกีต้าร์"
Guitar Hero 2 Yngwie Malmsteen "ผู้ให้กำเนิด Neoclassic"
 

Rock Guitar: Modern Rock Bands

Modern Rock Bands
หลายๆวงเชื่อว่าคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ผมจะทยอยนำประวัติและเพลงดังๆมาอัพเดทเรื่อยๆนะครับ แวะมาติดตามกันได้
 

Rock Guitar: Classic Rock Bands วงเก๋าๆระดับตำนาน

Classic Rock Bands
เนื้อหาในบทความนี้จะรวบรวมวงเก๋าๆที่โด่งดังในสมัยก่อน แต่ละวงที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการสำหรับนักดนตรี (อันนี้ไมม่รวมความประพฤตินะ) เอ้า มาดูกันใครรักใครชอบใครติดตามกันได้ครับ
ป.ล. ผมจะค่อยๆนำประวัติแต่ละวงมาอัพเดทให้เรื่อยๆนะ